HEAD

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ผลิตภันฑ์เอนไซม์เจนิฟู้ด 30 ซอง



ผลิตภันฑ์เอนไซม์เจนิฟู้ด คือ พืชผักผสมชนิดผง
เอนไซม์ คือ สารโปรตีนเป็นตัวเร่งการทำงานของระบบต่าง ๆ ในสิ่งมีชีวิตทำให้เซลล์เป็นล้าน ๆ เซลล์ , เนื้อเยื่อ ของเหลวและอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างปกติ หากร่างกายขาดเอนไซม์หรือปริมาณเอนไซม์ลดลงจะทำให้การทำงานของระบบอวัยวะต่างๆในร่างกายผิดปกติ บางครั้งทานอาหารที่มีประโยชน์หรือแพงแค่ไหนแต่ไม่มีเอนไซม์ย่อย ร่างกายก็นำไปใช้ไม่ได้ ทำให้เกิดโรคร้ายได้มากมาย
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเอนไซม์
-สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสร้างเอนไซม์ขึ้นมาใช้เอง ด้วยความสามารถในการผลิตที่แตกต่างกัน
-เอนไซม์เป็นตัวเร่งในการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีคุณภาพ แต่ถ้าย่อยไม่ดี ถึงกินอาหารที่แสนดีแค่ไหนร่างกายก็ได้รับสารอาหารที่ไม่เต็มที่
-เอนไซม์ควบคุมและเร่งปฏิกิริยาเคมีทุกชนิด ถ้าไม่มีเอนไซม์ ปฏิกิริยาจะเกิดช้า
-เอนไซม์แต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะตัว และทำปฏิกิริยาเคมีจำเพาะกับสารตั้งต้นที่ถูกกำหนดเท่านั้น เช่น เอนไซม์ชนิดย่อยแป้งจะไม่ย่อยโปรตีน หรือเอนไซม์ชนิดย่อยไขมันจะไม่ย่อยแป้ง
-การแช่แข็ง ไม่ทำลายความสามารถของเอนไซม์
-การขาดเอนไซม์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไม่รักษาสุขภาพของตนเอง บางกรณีอาจเกิดจากกรรมพันธุ์
-เอนไซม์ในร่างกายระดับต่ำ มีความสัมพันธ์กับโรคเสื่อมต่างๆ
จะทราบได้อย่างไรว่าร่างกายขาดเอนไซม์
รู้สึกเหนื่อยหลังจากกินอาหารมื้อหนัก
อ่อนเพลียง่ายเป็นประจำ
น้ำหนักตัวเพิ่มง่าย
ผายลมมีกลิ่นเหม็น อุจจาระจมน้ำ และเหม็นมาก
มีกลิ่นปาก
มีอาการของโรคภูมิแพ้  บางครั้งถึงหืดหอบ
มีลมแน่นในท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ บ่อยๆ
หน้าที่ของเอนไซม์
ช่วยย่อยอาหาร และดูดซึมสารอาหารเข้าสู่เซลล์ในร่างกาย
ช่วยเผาผลาญพลังงาน และย่อยสลายไขมัน
ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ช่วยลดและป้องกันการอักเสบ การติดเชื้อ
ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ
ทำให้ฮอร์โมน วิตามิน เกลือแร่ สารอาหารอื่นๆ ทำงานได้ตามคุณสมบัติ
ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
คุณสมบัติของเอนไซม์ เจนิฟู้ด ช่วยแก้ปัญหาการทำงานผิดปกติของระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น
 - ระบบหัวใจและหลอดเลือด  เช่น โรคหัวใจ,ความดันโลหิตไขมันในเลือดสูง
 - ระบบทางเดินอาหารการขับถ่าย เช่น โรคกระเพาะ,โรคลำไส้อักเสบริดสีดวงทวารมะเร็งกระเพาะ,ท้องผูก,อาหารไม่ย่อยโรคนิ่วถุงน้ำดีอักเสบ,โรคไตอักเสบ,ไตวาย,ต่อมลูกหมากโต,มะเร็งโรคตับ
ระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคไซนัสอักเสบ,หลอดลมอักเสบ,โรคภูมิแพ้หอบหืด,โรคปอด,ไข้หวัดใหญ่,โรคหัดต่าง,ช่วยขจัดสารพิษเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
-ระบบผิวหนังเช่นกลากเกลื้อ,บำรุงผิวพรรณ,สิว,ฝ้าลรักษาจุดด่างดำ,ผิวหนังอักเสบ,รักษาแผลสด,แผลน้ำร้อนลวก,ไฟไหม้ แผลในปาก,สะเก็ดเงิน
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น กล้ามเนื้ออักเสบ,โรคอัมพฤกษ์อัมพาต,โปลิโอ,ปวดเมื่อยลำตัว,ปวดหลังโรคเก๊าท์,โรคกระดูกพรุน,กระดูกอักเสบ,ไขข้ออักเสบ,รูมาติซึม
-ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน,ต่อมไทรอยต์อักเสบ
ระบบสืบพันธุ์ เช่น ความผิดปกติของประจำเดือน,รักษาความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
-ระบบสร้างเม็ดเลือด เช่น โรคโลหิตจาง,โรคลูคิเมีย
ท่านใดที่ควรใช้เอนไซม์ เจนิฟู้ด
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
- ผู้ที่ภูมิต้านทานอ่อน และมักติดเชื้อง่าย เช่น วัณโรค โรคเอดส์
- ผู้ป่วยก่อน และ หลังผ่าตัด
- สตรีก่อน และหลังคลอด
- ผู้ที่มีประสิทธิภาพตับไม่ดี เหนื่อยง่าย เช่น ตับอักเสบ
- ผู้ที่มีประสาทอ่อน ไม่ปกติ ตกใจง่าย เบื่ออาหาร
- ผู้ที่มีกระเพาะลำไส้ไม่ดีแต่กำเนิด ทำให้ผอมแห้ง แรงน้อย
- ผู้ที่การทำงานของประสาทไม่เต็มที่ มักสลึมสลือ กระปรกกระเปลี้ย
- ผู้ที่มีร่างกายแก่ก่อนวัย เจ็บป่วยบ่อย
- ผู้ที่มีอาการติดเชื้อแปลก ๆ ทำให้ร่างกายเจ็บออด ๆ แอด ๆ
- ผู้ที่อยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อโรคกรรมพันธุ์ เช่น มีญาติเป็นเบาหวาน มะเร็ง ปัญญาอ่อน โรคเลือด Thalassemia
นอกจากนี้เอนไซม์ยังในการช่วย
 : ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอหรือการเสื่อมสภาพของอวัยวะ ย่อยสลาย ส่วนเกินไขมัน ชะลอความชรา
 : ช่วยเผาผลาญพลังงานและสลายไขมันย่อย
 : ช่วยในการทำงานระบบภูมิคุ้มกัน
 : ช่วยป้องกันอาการติดเชื้ออักเสบ
 : ขจัดสารพิษของร่างกาย / ช่วยอนุมูลอิสระต้าน
 : ทำให้ฮอร์โมน,วิตามิน,เกลือแร่และสารอื่น ๆ ทำงานตามคุณสมบัติ
วิธีการใช้เอนไซม์ เนื่องจากเอนไซม์เป็นพืชผักสกัดจากธรรมชาติมีพลังการทำงานหลากหลาย  การใช้เอนไซม์ชนิดเดียวกันก่อนหรือหลังอาหารจะให้ผลการใช้ที่แตกต่างกัน   ดังนั้นผู้ใช้ควรทำความเข้าใจพื้นฐานของการใช้เอนไซม์
เอนไซม์ต้องดื่มขณะท้องว่าง การกินเอนไซม์เป็นอาหารเสริม เพื่อให้ทำลายโมเลกุลโปรตีนที่แปลกปลอมเข้ามาในเลือด ต้องดื่มเวลาท้องว่างคือ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนอาหาร หรือ 2 ชั่วโมง หลังอาหาร
เอนไซม์จะซึมเข้ากระแสเลือดได้ภายใน 5 นาที มิฉะนั้นจะหมดเปลืองไปจากการทำหน้าที่ย่อยอาหารเสียก่อน ถ้ากรณีมีอาหารอยู่ในกระเพาะจะไม่เข้ากระแสเลือดตามต้องการ
สรุป  1.ต้องดื่มตอนท้องว่าง
       2.ก่อนอาหาร 30-60 นาที
       3.หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
       4.เอนไซม์จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายภายใน 5 นาที
ตัวอย่างการใช้เอนไซม์ ก่อน หรือ หลัง กับอาการต่างๆ
ก่อนอาหาร 30 นาที: เก๊าท์,ริดสีดวง,ปวดเมื่อยบั้นเอว,เอ็นเคล็ด,ไม่กระปรี้กระเปร่า,เนื้องอก,ต่อมไทรอยด์,เบาหวาน,ความดันสูง,ตั้งครรภ์ยาก,วัยหมดประจำเดือน,สูตรล้างพิษ,ลดน้ำหนัก,ไซนัส
หลังอาหาร 30 นาที : เพิ่มน้ำหนัก,ท้องอืด,ท้องเฟ้อ,โรคกระเพาะ,โรคลำไส้
อื่นๆ: ดูแลผิวพรรณ  ผสมกับน้ำสะอาดชโลมไว้ ช่วยขจัดสารเคมีที่ตกค้าง ขจัดสิว ฝ้า ผิวจะนุ่มนวลขึ้น
     : ท้องเสีย ท้องเดิน อาหารเป็นพิษ ปวดประจำเดือน  ดื่ม 2 ซอง  เมื่อมีอาการ
     : อาการสะอึก  อาการเมาสุรา ดื่ม 2 ซอง เมื่อมีอาการ
     : มือเป็นผื่น  ผสมน้ำแช่ วันละ 2 – 4 ครั้ง
     : ฮ่องกงฟุต ผสมกับน้ำอุ่น แล้วปิดทาบริเวณแผล
     : แผลกดทับ แผลเรื้อรัง แผลสด น้ำร้อนลวก  ล้างแผลให้สะอาด โรยผงเอนไซม์ลงบนบาดแผล
ถ้าแผลแห้งแล้วให้ผสมน้ำอุ่นทา
เอนไซม์เจนิฟู๊ดผ่านการวิเคราะห์วิจัยตรวจสอบคุณภาพจากสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศซึ่งเป็นบทพิสูจน์ได้ดีถึงคุณภาพและส่วนประกอบของสารอาหารที่ร่างกายได้รับโดยมีผลวิเคราะห์จากสถาบันต่างๆรับรองดังนี้
1. สถาบันวิจัยโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล
2 .กองโภชนาการกรมอนามัย
3 .กองยากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข
อย.10-3-10838-1-001
ขนาด 30 ซอง  ราคาปกติ  2,200  บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น